วิเคราะห์ภาพยนตร์ชาตินิยมสิงคโปร์ “Long Long Time Ago”

สิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เคยตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตกและผ่านเรื่องราวของการแยกตัวเป็นเอกราชจากประเทศมาเลเซีย ประวัติศาสตร์บาดแผลต่างๆ ได้ส่งผลให้เกิดการหล่อหลอมผู้คนด้วยแนวคิดชาตินิยมอย่างสุดโต่ง

ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศสิงคโปร์มีประสิทธิภาพในการพัฒนาประเทศจนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าในอันดับต้นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แน่นอนว่าในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ย่อมต้องให้ความสำคัญกับการสร้างภาพยนตร์ที่สะท้อนความเป็นชาตินิยมสิงคโปร์ ดังในกรณีของภาพยนตร์เรื่อง Long Long Time Ago ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปีของประเทศสิงคโปร์ (ในปี ค.ศ. 2015 ที่ผ่านมา) กำกับโดย Jack Neo ชาวสิงคโปร์

Long Long Time Ago

รีวิว…Long Long Time Ago

          Long Long Time Ago เป็นภาพยนตร์แนวประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คนในสิงคโปร์ยุคแรกเริ่ม โดยใช้เหตุการณ์ช่วงการแยกประเทศสิงคโปร์ออกมาจากมาเลเซีย ในปี ค.ศ. 1965 เป็นต้นมา ชาตินิยมของสิงคโปร์จะแสดงให้เห็นถึงคนจีนเป็นใหญ่ เนื่องจากมีจำนวนของคนจีนอาศัยอยู่มากที่สุด เช่น มีฉากของการจัดเทศกาลปีใหม่แบบจีน และมีแนวคิดของจีนฮกเกี้ยนที่ยกผู้ชายเป็นใหญ่ เป็นต้น

รีวิว...Long Long Time Ago

          จะเห็นในภาพยนตร์ว่า ลูกชายคนแรกของครอบครัวหลัก (Lim Ah Kun) จะมีความเป็นใหญ่รองจากพ่อ (Si Shu) แต่ในความเป็นจริงแล้ว ครอบครัวนี้มีพี่สาวคนโตด้วย (Lim Zhao Di) แต่ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจเท่าลูกชาย ทำให้เห็นว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังประกอบการสร้างชาตินิยมที่มีผู้ชายเป็นใหญ่ เช่น ในเวลาที่ลูกชายทำผิดพลาดจะไม่มีใครกล่าวโทษเท่ากับลูกสาว เป็นต้น  

          นอกจากนี้ Long Long Time Ago ยังมีเทคนิคที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นหพุสังคมในสิงคโปร์ ดังคำกล่าวที่ว่า “We are Singapore citizens” ในฉากที่มีการแต่งงานกันระหว่างคนจีนกับคนอินเดีย จะเห็นว่า ชาตินิยมสิงคโปร์ได้รวบรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรม (Multiracial) ผ่านตัวละคร 3 กลุ่ม ได้แก่ คนจีน คนมลายู และคนอินเดีย  

Long Long Time Ago ภาพยนตร์แนวประวัติศาสตร์

          Long Long Time Ago นอกจากจะเป็นภาพยนตร์แนวประวัติศาสตร์ที่สะท้อนความเป็นชาตินิยมสิงคโปร์แล้ว ยังเป็นภาพยนตร์ที่สนับสนุนและแสดงความเห็นชอบกับนโยบายของรัฐบาลสิงคโปร์อีกด้วย เนื่องจากมีการกล่าวถึงนโยบายการอพยพผู้คนจากหมู่บ้านไปอยู่ในแฟลต ซึ่งเป็นอาคารที่จัดสร้างโดยรัฐบาล และมีการผสมผสานเทคนิคมุกตลกท่ามกลางสถานการณ์ปัญหาต่างๆ ได้อย่างลงตัว

คุณจะไม่พลาด รีวิวหนัง ที่เราได้คัดสรรมาให้คุณได้รู้ก่อนใคร